รีวิวโลชั่นฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม ?! 8 ยี่ห้อแบรนด์เพื่อผิวปะทะแดดร้อนประเทศไทย ~

คราวนี้มาถึงคราวมอยกรุโลชั่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
คือนทเป็นคนบ้าทาโลชั่นมาก พูดจากใจ คือรู้สึกผิวแห้งไม่ได้
ผิวต้องชุ่มผิวต้องฉ่ำตลอดเวลา ฉะนั้นจึงมีโลชั่นหลากหลายยี่ห้อที่ใช้อยู่
ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีความดีงามแตกต่างกันไป …. ส่วนจะมียี่ห้ออะไรบ้างนั้น
ขออนุญาตเข้าสู่ช่วงเปิดตัวนางงามทั้ง 8 ของเรากันเลยค่ะ ( ´ ▽ ` )ﾉ !!


(เรียงจากซ้ายไปขวา)

♡ GARNIER BODY LIGHTEXTRA WHITENING REPAIRING MILK LOTION ♡
♡ BHAESAJ BODY WHITENING LOTION PLUS VITAMIN E ♡
♡ BABIMILD INTENSIVE LOTION FOR REFRESHIN SKIN HONEY SUCKLE & ACEROLA CHERRY ♡
♡ JERGENS SOOTHING ALOE ♡
♡ NIVEA EXTRA WHITE FIRMING BODY LOTION ♡
♡ MISTINE BULGARIAN YOGURT WHITENING LOTION ♡
♡ CITRA PEARLY WHITE UV EXTRA ♡
♡ VASELINE HEALTHY WHITE UV LIGHTENING ♡

-------------------------------

ในเรื่องของเกณฑ์การรีวิวครั้งนี้
นทขอหยิบในเรื่องของความรู้สึกและประสบการณ์มาเป็นตัวตัดสินกล่าวคือ
เรื่องของเนื้อสัมผัส กลิ่น สี และความรู้สึกหลังใช้อย่างความเหนียวเหนอะหนะ เป็นคราบไหม นั่นเองค่ะ 

โอเคไม่ฮาเฮฮาช้าอยู่ใยค่ะ…คุณกิตติคะเพลียเหลือเกินค่ะมาทุกกระทู้ 555
ชิ้นแรกขอหยิบถึงโลชั่นที่ยังใช้มาถึงทุกวันนี้กับ


NIVEA EXTRA WHITE FIRMING BODY LOTION
นีเวียตัวนี้โปรก็ขยันออกซะเหลือเกินแม่คุณ !
โลชั่นนีเวียรุ่น Extra White ที่ใครต่อใครก็ใช้แล้วขาวนักขาวหนา
แต่ส่วนตัวเราเป็นคนผิวสองสีไงเลยอาจจะไม่ได้หวังผลเรื่องนี้นัก
คือไปทะเลทีไรผิวก็จะคล้ำจะได้เจ้าขวดนี้นี่แหละฟื้นฟูผิว
เนื้อสัมผัสคือเหลว ครีมสีขาว เกลี่ยง่ายแอบหนึบหนับ
แต่นั่งทาในห้องแอร์คืออุ่นใจ อาจจะไม่ได้ชุ่มชื่นมาก
แต่เรื่องผลลัพธ์หลังใช้ก็โอเค 


มาต่อกับตัวที่สองที่รักไม่ต่างจากตัวแรก
VASELINE HEALTHY WHITE UV LIGHTENING
วาสลีนรุ่น Healthy White คือตีคู่มากับนีเวียเลย
เนื้อครีมคือดี กลิ่นละมุนนี ชอบกลิ่นนางสุด
ไม่เหนียวเหนอะหนะแม้ทาในห้องเปิดพัดลม
ส่วนผลลัพธ์หลังใช้นทว่าค่อนข้างใช้เวลาในการฟื้นฟูพอสมควรเลย
(ดีแล้วหล่ะ ถ้าให้ขาวขึ้นใน 3 วันก็เตรียมจองวัดเผาเถอะค่ะ =_=)
เออนางแอบมีความกัน UV ด้วยแต่ทั้งนี้ควรทากันแดดด้วยนะ


เหยงานกลางคืนงานเล่นผิวนางควรมา
CITRA PEARLY WHITE UV EXTRA
ตัวนี้พึ่งซุยใช้มาซักพัก...
เห้ยยยย !! นางมีวิ้งค์ๆไข่มุก ผิวส่องประกาย Shine on me มากๆ
คือช่วยขับผิวให้ดูผ่องเล่นไฟเป็นหิ่งห้อยสุดพลัง
เนื้อครีมสีขาวข้น แต่ไม่เป็นอุปสรรคกับการเกลี่ยและซึมเลย
คือปลื้มจิตปลื้มใจ ติดตัวไว้ใช้อุ่นใจค่ะมาก
กลิ่นคือซิตร้ามาก (คนใช้เราเข้าใจกันนะคะ)
แต่ถ้ามีงานเร่งด่วน งานกาล่า งานพรอม งานบุญบั้งไฟ ขึ้นบ้านใหม่
ใช้ตัวนี้ก่อนไป แล้วให้คนยิงไฟมาที่ฉันเลย ปังแน่นอน
เออนางแอบมีความกัน UV ด้วยแต่ทั้งนี้ควรทากันแดดด้วยนะ


นางงามคนที่ 4 คนนี้ขุ่นแม่ของนุ้งปลื้มเพราะกลิ่นชวนน่าหม่ำ
MISTINE BULGARIAN YOGURT WHITENING LOTION
จริงๆถ้าของมิสทีนอยากจะหยิบตัวฟักข้าวมาให้ดู
แต่นางหมดไปแล้วแม่ซื้อสูตรนี้มาใช้แล้วค้นพบว่า
กลิ่นน่าหม่ำมาก งานดัชชี่บอยแอนแกวต้องมา
ส่วนตัว…เฉยๆมาก ไม่เห็นผลอะไรใดๆทั้งสิ้น
อ่ะดีหน่อยก็ชุ่มชื่นดี แต่เรื่องความขาวหรืออะไรพวกนี้
เราแทบไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรเลย


กลิ่นดีละมุนผิวสุดยี่ห้อนี้
JERGENS SOOTHING ALOE
ยี่ห้อนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องโลชั่นอยู่แล้ว
แต่ที่หยิบเอาสูตรนี้มาใช้เพราะเราชอบกลิ่นว่านหางจระเข้ 555
และดูเหมือนว่าผลลัพธ์เรื่องความชุ่มชื่น
ค่อนข้างให้คำตอบได้ดีมากเลยทีเดียว
ดูเหมือนเนื้อโลชั่นจะหนัก แต่เวลาซึมเข้าไปกับผิวแล้ว
แทบจะไม่ให้ความรู้สึกที่เหนียวเหนอะหนะเลย 
อยู่ห้องแอร์ ใช้แล้วนุ้งปลื้มค่ะ


นางเจ้มจ้น…นางสู้กับเจอเก้นได้ !
BABIMILD INTENSIVE LOTION
ถ้าจะหาตัวตายตัวแทนกับ Jergens นั้น
Babimild คือคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อมาก #ในเรื่องของความชุ่มชื่นนะ
แต่บอกเลยว่าเหนียวเหนอะสุดพลังงงงงงงง
เนื้อครีมนางขาวข้น เกาะหนึบไม่ทิ้งฉันไปไหน
แถมกลิ่นก็ปลอมน้ำหอมจังเลยพี่จ๋า
แต่เอาเถอะ…นางชุ่มชื่น มนุษย์ห้องแอร์อย่างเราก็ทนได้ T_T


ไม่รู้จักตัวนี้…น้องก็ไม่รู้จะพูดยังไง 555
BHAESAJ BODY WHITENING LOTION
นี่คือโลชั่นขวดแรกที่น้องใช้
เพราะมีแต่คนบอกว่าใช้แล้วขาว
แต่เราใช้แล้วนั้น…กลายเป็นลิงคองจ้า 555
คือไม่ได้แบบไม่ขาวเลยก็แอบกระจ่างใส เรียบเนียนบ้าง
แต่ขนนั้น…แสตนด์อัพยาวเอายาวเอา จนใช้ไปซักพักแล้วต้องหยุดใช้
ไม่งั้นได้คืนร่างเป็นบรรพบุรุษแน่ๆ
ส่วนกลิ่นของเธอก็ช่างอภิรมณ์เริงใจแบบฉบับท่านย่ามาก
ก็เอาเป็นว่าใครใคร่ใช้ใช้ เพราะถูกและดี สบายกระเป๋าค่ะ !


งานเคลือบผิวก็มา ผิวดูใสขึ้นสุด ~
GARNIER BODY LIGHT EXTRA WHITENING REPAIRING MILK LOTION
การ์นิเย่มะนาวในตำนาน
แกมันคือนางเอกในคราบนางร้าย
คือเกลี่ยยากระดับนึง แถมเคลือบผิววอกไปอีก
แต่แบบใช้ไปจนหมดขวด นางขาวขึ้นใสขึ้น เห้ยย
คือยอมผิววอกหน่อย ยอมเสื้อเหลืองหน่อย (ถ้าใส่เสื้อขาว)
ผลลัพธ์ที่ได้คือเป็นที่ประทับใจมากในระดับหนึ่งเลยหล่ะเธอ

-------------------------------

บางทีก็สงสัยว่าจำเป็นต้องมีโลชั่นเยอะขนาดนี้มั้ย
แต่ก็นะผิวเราก็ต้องดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ♡
เขียนมาถึงตรงนี้ทีไรมือจะหงิกทุกที
หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ทุกคนเจอหาคนที่ใช่เอ๊ยโลชั่นที่ใช่ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ 
สำหรับวันนี้ขอตัวลากันไปก่อน เชิญมากดปั้มใช้ตามอัธยาศัยข่ะ –/\- 

รีวิว 6 โลชั่นบำรุงผิวออกใหม่ช่วงต้นปี 2018 เน้นทาแล้วผิวขาว หอม นุ่ม น่าจุ๊บ~♡ 

อยากเป็นคนผิวขาว หอม นุ่ม น่าจุ๊บ ต้องทำไงน้อ?

ปิ๊งป๊อง ก็ต้องบำรุงซิคะ มีครีมกี่ขวดก็ฟาด ฟาด ฟาดมันเข้าไป!!

ยิ่งเดี๋ยวนี้มีโลชั่นมากมายหลายสูตร มีทั้งผสมกันแดด ขาวเร็วx2 ผสมวิตามินกลูต้าโน่นนี่นั่นสารพัด คือ มีตัวเลือกมากมายหลากหลายให้เลือกใช้ สาวๆก็จัดเลยค่ะ ใครใคร่ใช้ขวดไหนก็ไปซื้อเสีย จะได้มีผิวดีกันถ้วนหน้านะเท้อออออ

แต่สำหรับใครที่ อ๊ะ! ยังลังเล ไม่รู้ว่าจะใช้ตัวไหนดี เพราะตัวเก่าก็น่าลอง สูตรใหม่ก็น่าใช้ ยังตัดสินใจไม่ได้ก็มาทางนี้เลยค่ะ โดยเฉพาะใครที่อยากลองใช้อะไรใหม่ๆมาทางนี้เลยจ้า


เพราะในกระทู้นี้ เราในฐานะชะนีนางหนึ่งผู้นิยมชมชอบการเคลือบผิวด้วยโลชั่นดีๆหอมๆให้ผิวขาวๆนุ่มๆ ยินดีเป็นตัวแทนสาวๆผิวสวยมารีวิวโลชั่นบำรุงผิวที่ออกใหม่ช่วงต้นปี 2018 ให้สาวๆดูกันค่าาา

รวบรวมมาได้ 6 สูตร 6 ยี่ห้อ ไม่ขาดไม่เกิน แต่ขวดไหนจะใช้แล้วเป็นยังไง ขาวขึ้นแค่ไหน ผิวหอมมากมั้ย และนุ่มน่าจุ๊บจริงหรือเปล่า?
ก็อย่าได้รอช้าค่ะ มาค่ะ มาดูกัน

Citra Natural White Uv Lotion สูตรมะขามสดผสมทานาคา

นึกถึงโลชั่นทาผิวขาว เชื่อว่า ต้องมีซิตร้าโผล่มาเป็น 1 ในนั้น เพราะนางอยู่คู่กับสาวไทยมานานมาก คือ เดินไปถามผู้หญิง 10 คน ก็ต้องเคยใช้ไม่ต่ำกว่า 8 คนอ่ะ ที่สำคัญ นางกำลังโด่งดังมาจากสบู่ทานาคาที่รีวิวกันเยอะมั่กมากว่า ใช้แล้วขาวเร็ว ขาวไว! นางก็เลยไม่รอช้ารีบออกโลชั่นทาผิวสูตรใหม่เป็นมะขามสดผสมทานาคามาเอาใจสาวๆเมืองร้อนอย่างเรากัน เพราะมะขามช่วยให้ผิวขาวใส ส่วนทานาคาก็ช่วยป้องกันแดด เป็นการรวมตัวกันที่เริ่ดแบบ 10 10 10 ไปเลยค่า

กลิ่น : กลิ่นหอมมว๊าก หอมแบบฟรุ้ตตี้ เหมือนกลิ่นขนมลูกอมประมาณนั้น แถมหอมติดผิวนานด้วยนาจา อย่าได้ดูถูกความหอมนางเชียวเอ้อ!
เนื้อครีม : เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น แต่ทาแล้วซึมลงผิวไว ขนาดเรามีขนแขนหน่อยๆแต่ทาแล้วก็ยังไม่ติดขนเลยค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ : ทาหลังออกแดดคือ ไม่แสบผิวเลย ลดอาการแสบผิวเวลาโดนแดดได้มาก ผิวนุ่มชุ่มชื้นและขาวไวกว่าสูตรเก่าอยู่มากค่ะ
ราคา/และปริมาณ : 165 บาท / 400 ml

Bhaesaj Extra Whitening Lotion

สำหรับขวดนี้เป็นโลชั่นที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากัน เพราะนางขึ้นชื่อว่า ถูกและดี กับโลชั่นเภสัชสีเขียวที่ตอนนี้คนขายกันเยอะแยะมากกกกก เป็นสูตรที่ขาวเร็วและยังเต็มไปด้วยสารสกัดต่างๆเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ นางผสมสารกันแดดเพื่อช่วยป้องกันผิวของสาวๆจาก UV และไม่ทำให้ผิวบางลง พร้อมผสมอัลฟ่าอัลบูตินที่จะทำให้ผิวขาวเร็วถึง 10 เท่า!!! ดีกว่าสูตรเก่าขนาดนี้ แถมยังราคาถูกเหมือนเคย แล้วจะรอช้าอะไรอยู่เล่า ซื้อมาใช้ด่วนๆเลยจ้า

กลิ่น : กลิ่นหอมดอกไม้ชัดมาก ยิ่งทาลงบนผิวกลิ่นจะยิ่งกระจาย กลิ่นหอมติดผิวอยู่พักนึงเลย 
เนื้อครีม : เนื้อครีมสีขาว แตกตัวง่าย ซึมลงผิวก็ง่าย ไม่ค่อยข้นเหมือนสูตรเก่าเลยค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ : ขาวเร็วมว๊ากตามแบบฉบับครีมเภสัช กันแดดได้นิดหน่อย ผิวมีหมองลงบ้างหลังออกแดดจ้า
ราคา/และปริมาณ : 49 บาท / 150 ml

Nivea Oil in Lotion สูตร Rose & Argan Oil

หลังจากออกสูตรกันแดดจนดังระเบิดเพราะนางถือเป็นตัวท็อปสำหรับโลชั่นกันแดด  รอบนี้วาสลีนเลยเน้นที่กลิ่นหอมกับความชุ่มชื้นของผิวเป็นหลัก ซึ่งสูตรใหม่ของนีเวียนี้มีทั้งหมด 3 สูตรด้วยกัน แต่เราเลือกสูตร Rose & Argan Oil มา เพราะ เป็นสูตรผสมน้ำมันอาร์แกน เพื่อผิวชุ่มชื้นนุ่มนวล และเป็นคนชอบกลิ่นหอม อยู่แล้ว ซึ่งตัวนี้เป็นกลิ่นกุหลาบและหอมที่สุดในบรรดา 3 สูตรออกใหม่เลยค่ะ

กลิ่น : มีกลิ่นหอมแบบดอกไม้อ่อนๆ หอมละมุนนี ให้ฟีลคล้ายๆพวกกลิ่นเด็กนุ่มๆแต่หอมกว่ามาก
เนื้อครีม : เนื้อครีมไม่ขาวออกสีม่วงนิดหน่อย ทาแล้วซึมลงผิวเร็วมากเพราะผสมมอยเจอร์ไรซ์เซอร์เยอะ
ความรู้สึกหลังใช้ : ทาแล้วผิวชุ่มชื้นขึ้นมว๊าก แนะนำว่าเหมาะกับคนผิวแห้งมากๆเลยค่ะ  แต่สูตรนี้ไม่เน้นขาวนะ
ราคา/และปริมาณ : 185 บาท / 400 ml

Vaseline healthy white urban defense serum SPF50 PA+++

มีซิตร้า มีนีเวีย แล้วก็ต้องวาสลีนซิคะ วาสลีนขึ้นชื่อมากๆเรื่อง ความผิวนุ่มชุ่มชื้น เพื่อนเราผิวแห้งหลายๆคนก็ชอบใช้วาสลีนค่ะ สำหรับวาสลีนเราเคยใช้สูตรปกติ ขวดนั้นใช้แล้วขาวแต่จะไม่ค่อยหอม ส่วนตัวเราไม่ชอบกลิ่นมันเลย และขวดนี้ก็เช่นกัน น้องไม่หอมเลย เสียจุย T^T แถมได้กลิ่นเหมือนครีมกันแดดมาหน่อยๆด้วยเพราะเป็นสูตรที่ผสมกันแดดแต่ยังคงช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิวอยู่เหมือนเดิม

กลิ่น : ส่วนตัวว่าไม่ค่อยหอมค่ะ อย่างที่บอกว่าเพราะเป็นสูตรกันแดดเลยเหมือนได้กลิ่นครีมกันแดดมานิดหน่อยด้วย  เนื้อครีม : สีขาว เข้มข้น ซึมลงผิวตามมาตรฐานโลชั่นทั่วไป อาจจะเพราะมีผสมกันแดด เลยไม่ซึมลงผิวเร็วเท่าที่ควรแต่ก็ถือว่าไม่ช้ามากค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ : ตัวนี้เวลาทาแล้วออกแดดผิวไม่ค่อยคล้ำลงเพราะ SPF ค่อนข้างสูง แล้วก็ช่วยบรรเทาอาการแสบผิวหลังออกแดดได้เพราะมีความชุ่มชื้นสูง
ราคา/และปริมาณ : 249 บาท / 320 ml

Arome by Watson Cool Chiffon Perfume Body Lotion

โลชั่นของวัตสันที่ขอสารภาพว่า เพิ่งเคยเห็น 5555 ซึ่งเรารู้สึกผิดมาก เพราะใช้ของวัตสันบ่อยแต่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า มีนางวางขาย พี่ขอโทษ 55555 เป็นโลชั่นที่เราซื้อมาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะของหลายอย่างในวัตสันถูกและใช้ดี คิดว่า ขวดนี้ก็น่าจะใช้ดีเหมือนกัน แถมดูรูปร่างขวดแล้ว หรูหราไม่เบา ชอบที่สุดก็ตรงกลิ่นหอมจ้า เราเป็นคนติดกลิ่นหอม แล้วนางเคลมมาว่า นางเป็นโลชั่นเพอร์ฟูมนะจ้ะ เพราะงั้น พี่ก็สอยเลยจ้า ไม่รอดมือพี่แล้ว อิอิ

กลิ่น : กลิ่นหอมแบบน้ำหอม เพราะเป็นโลชั่นน้ำหอม กลิ่นชัดมาก ใครชอบก็คือ ชอบ ใครไม่ชอบก็จะไม่ชอบกลิ่นไปเลย
เนื้อครีม : เนื้อครีมสีขาว แตกตัวง่าย ค่อนข้างเหลวเหมือนโยเกิร์ต ตอนแรกคิดว่าจะซึมลงผิวง่าย แต่พอทาลงบนผิวเอาเข้าจริงๆต้องเกลี่ยอยู่พักหนึ่งเลย
ความรู้สึกหลังใช้ : ความชุ่มชื้นของผิวระดับกลางๆมาตรฐานโลชั่นทั่วไป แถมทาแล้วให้ฟีลผิวลื่นเหมือนเคลือบกาวเลย แล้วก็ยังทาออกแดดไม่ได้ด้วยทำให้ต้องทากันแดดควบคู่กันไป
ราคา/และปริมาณ :  190 บาท / 500 ml 

Chupa Chups strawberry cream body lotion 2 in 1 BB pink

อยากจะกรี๊ด! ตอนรู้ว่าจูปาจุ๊บทำโลชั่นทาผิวออกขาย คือ แบบใครๆก็เคยกินลูกอมจูปาจุ๊บเนอะ แล้วมันก็จะหวานๆหอมๆน้ำตาลผลไม้ พอเอาของกินมาทำเป็นโลชั่นทาตัว คนก็เลยเห่อไปซื้อใช้กันและรวมถึงตัวเราด้วย ฮรืออออ เอาแค่ตัวแพ็ตเก็จ น้องเค้าก็มีความสดใสยังกับลูกกวาดเหมือนใส่สารพัดของกุ๊กกิ๊กลงไปแล้วเกิดมาเป็นขวดน่ารักๆแบบนี้เลย เราแพ้อ่า และที่สำคัญนางมีขายในเซเว่นด้วยอีกต่างหาก คือ ทั่วถึงเว่อร์ แล้วงี้ใครจะกล้าพลาดนางล่ะคะ จริงมั้ย?

กลิ่น : กลิ่นสตอเบอรี่เลยค่ะ แบบกลิ่นแคนดี้หวานอมเปรี้ยว ทาแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอมยิ้มจูปาจุ๊บรสสตอเบอรี่เดินได้เลย อิอิ
เนื้อครีม : สีชมพูค่ะ และเข้มข้นมาก ย้ำว่า เข้ม-ข้น-มาก ค่ะ เพราะทาแล้วติดขนเราเลยค่ะ เห็นชัดเลย ซึมค่อนข้างยากทีเดียว
ความรู้สึกหลังใช้ : เด่นเรื่องกลิ่นมาก นอกนั้นเฉยๆ ความชุ่มชื่นก็สู้ตัวอื่นไม่ได้ เรื่องขาวก็ไม่ค่อยเห็นผล เหมาะทาหอมๆเวลาไปเที่ยวตอนกลางคืนไม่ก็ก่อนนอนจะฟินกับกลิ่นมาก
ราคา/และปริมาณ : 250 บาท / 200 ml

ขอทำตารางสรุปความโดดเด่นของน้องนางแต่ละขวดกันหน่อยนะคะ เอาไว้ให้สาวๆใช้พิจารณาเวลาเลือกซื้อโลชั่นให้ตรงกับความต้องการกันเนอะ

 ครีมกันแดดสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนเด็ด ๆ และเหมาะสมกับสภาพผิวอันบอบบางของลูกน้อยบ้าง ถ้าไม่อยากให้ผิวของลูกน้อยหมองคล้ำจากแสงแดด มาเลือกดูครีมกันแดดที่ดีที่สุดให้ลูกของคุณกันเถอะ

          แสงแดดในปัจจุบันนี้มีความร้อนรุนแรงซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวของคนเรา โดยเฉพาะผิวของเด็กซึ่งมีความบอบบางกว่าผิวของผู้ใหญ่มาก การทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวของลูกน้อยจึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ เพราะในแสงแดดมีทั้งรังสี UVA และรังสี UVB ซึ่งมีความอันตรายต่อผิวหนัง ทำให้ผิวไหม้เสีย หมองคล้ำ เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ และอาจทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้

           โดยครีมกันแดดนี้สามารถเริ่มทาให้กับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป แต่ถ้าอายุต่ำกว่า 6 เดือนยังไม่แนะนำให้ทาครีมกันแดดนะคะ เนื่องจากผิวหนังของเด็กยังบอบบางอยู่มาก อาจเกิดอาการแพ้และระคายเคืองจากสารเคมีได้ และหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดยังสงสัยว่าลูก ๆ จะใช้ครีมกันแดดยี่ห้อใดได้บ้างนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้นำรีวิวครีมกันแดดสำหรับเด็กมาให้ชมกันแล้ว บอกเลยว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องมีติดตัวไว้ให้ลูกน้อยสักอันแล้วค่ะ

ภาพจาก : babyganics.com

1. Babyganics Mineral-Based Baby Sunscreen Lotion SPF 50

          โลชั่นกันแดดสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็กและทารก ปกป้องผิวจากรังสียูวีไม่ให้ทำลายเซลล์ผิวอันบอบบางของลูกน้อย ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย เนื้อครีมทาง่าย ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ราคาประมาณ 350 บาทค่ะ

2. Nivea Sun Kids Roll-On Sunscreen Lotion SPF 50+

          ครีมกันแดดสูตรกันน้ำที่อ่อนโยนและเหมาะสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ตัวขวดเป็นแบบโรลออน ทาง่ายและรวดเร็ว พกพาได้สะดวก ราคาประมาณ  230 บาท

3. KODOMO Baby Sunblock Lotion Spf 30+

          ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็ก และผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย มีเนื้อครีมบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมแป้งเด็กอ่อน ๆ ราคาประมาณ 130 บาทค่ะ

4. Pigeon UV Baby Milk Waterproof Sunscreen SPF50 PA+++

          โลชั่นทากันแดดสำหรับเด็กสูตรกันน้ำ ใช้ได้กับทั้งใบหน้าและลำตัว เนื้อโลชั่นบางเบา ทาง่าย สบายตัว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ราคาประมาณ 399 บาท

5. Coppertone Water Babies Pure & Simple Sunscreen Lotion SPF 50

          ครีมกันแดดสำหรับเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สูตรกันน้ำ  มีกลิ่นหอมอ่อนโยน เนื้อบางเบา ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ราคาประมาณ 590 บาทค่ะ

6. Banana Boat Baby Tear-Free Lotion Spray Sunscreen SPF 50+

          สเปรย์กันแดดสูตรกันน้ำ สำหรับปกป้องผิวเด็กอ่อนอายุ 6 เดือน-2 ปี หรือผู้มีผิวแพ้ง่าย เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน ราคาประมาณ 699 บาท

7. Baby Sebamed Sun Cream Protection SPF 50+

          ครีมกันแดดสำหรับเด็กที่ช่วยดูแลปกป้องผิวจากรังสียูวี  พร้อมช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว มีความอ่อนโยน เหมาะสำหรับเด็กที่ผิวแพ้ง่าย และต้องสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำ ราคาประมาณ 850 บาทค่ะ

8. Neutrogena Pure & Free Baby Sunblock SPF 60+

          ครีมกันแดดสูตรกันน้ำสำหรับเด็กเล็ก เด็กโตและผู้ใหญ่ที่ผิวแพ้ง่าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับผิวบอบบางโดยเฉพาะ ราคาประมาณ 950 บาท

9. Eucerin Sun Kids Spray Natural Protection SPF 50+

          สเปรย์กันแดดสูตรกันน้ำ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปที่มีผิวบอบบาง เนื้อสเปรย์บางเบา ไม่มันวาว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว ราคาประมาณ 1,170 บาทค่ะ

10. La Roche-Posay Anthelios Dermo-Pediatrics Wet Skin Gel Lotion SPF 50+ PA++++

          ครีมกันแดดสำหรับเด็กสูตรกันน้ำ เนื้อครีมเป็นเจลที่สามารถทาได้บนผิวที่เปียกน้ำ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งทางน้ำ ราคาประมาณ 1,500 บาทค่ะ

          คราวนี้คุณพ่อคุณแม่ก็คงทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่าครีมกันแดดสำหรับเด็กตัวไหนบ้างที่น่าจะเหมาะสมกับลูก และช่วยปกป้องผิวอันบอบบางของพวกเขาจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรแล้วเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการปกป้องแดดสูงสุด ควรทาครีมก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง และควรหลีกเลี่ยงแดดช่วง 11.00 น.–15.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีรังสียูวีในปริมาณสูงค่ะ

 วิธีทาครีมกันแดด มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด เพราะการใช้ครีมกันแดดมีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนบำรุงผิว คือต่อให้มีครีมบำรุงผิวคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ป้องกันผิวของเราจากแสงแดด ริ้วรอยก่อนวัยอันควรคงได้มาเยือนแน่ ๆ

          เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าวิธีทำให้ผิวขาวสวยขึ้นมาได้นั้น หนึ่งในเคล็ดลับที่สำคัญไม่แพ้การใช้ครีมบำรุงผิวเลยคือ "การทาครีมกันแดด" ซึ่งครีมกันแดดที่ดีนั้นต้องมี SPF อย่างน้อย 30 และมี PA+++ ถึงจะเพียงพอต่อการปกป้องผิวสวย เมื่อมีครีมกันแดดคุณภาพดีแล้วสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย คือวิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง หากทาครีมกันแดดไม่ถูกวิธี นอกจากจะเปลืองเงินแล้วผิวของเราก็ยังไม่ได้รับการปกป้องอย่างเพียงพออีกด้วย ว่าแต่ควรทำอย่างไรบ้าง กระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากค่ะ

1. ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที 

          ครีมกันแดดส่วนใหญ่มีผลในการปกป้องแสงแดดได้ก็ต่อเมื่อทาลงไปบนผิวนานมากกว่า 20 นาทีแล้วเท่านั้น หากออกแดดทันทีหลังจากทาครีมกันแดดเสร็จผิวอาจไหม้แดดได้โดยไม่รู้ตัว เป็นที่มาของความสงสัยที่ว่าทำไมทาครีมกันแดดแล้วยังดำอยู่นั่นเอง

2. ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ ไม่น้อยหรือมากเกินไป

          ผู้ใช้ครีมกันแดดหลาย ๆ คนมักจะใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยด้วยราคาที่สูงของครีมกันแดด ซึ่งนั่นเป็นวิธีการทาครีมกันแดดที่ไม่ถูกต้อง หากต้องการปกป้องผิวกายจากรังสียูวีที่พร้อมจะเข้ามาทำร้ายผิวเราได้เสมอนั้น ควรใช้ปริมาณที่พอเหมาะกับแต่ละจุด ดังนี้

          วิธีทาครีมกันแดดบนใบหน้า - ปริมาณการทาครีมกันแดดใช้เท่ากับเหรียญ 10 บาทสำหรับใบหน้าและลำคอ บางคนที่ไม่ชินกับการใช้ครีมทาผิวปริมาณมากขนาดนั้นอาจรู้สึกว่ามากเกินไปไหม 

          สิวจะบุกหน้าหรือเปล่า ? หากกังวลเรื่องสิวเพียงเปลี่ยนมาใช้เป็น ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว หรือใช้ครีมกันแดดแบบ Water Base ก็หมดห่วงเรื่องสิวได้ อีกทั้งยังสามารถเติมระหว่างวันและไม่ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบ โดยทาครีมกันแดดบนหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว อาจจะแต้มเป็น 5 จุดแล้วใช้มือเกลี่ยออกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ

           วิธีทาครีมกันแดดที่ตัว - ตั้งแต่บริเวณแผ่นหลัง แขน ขา ควรใช้ครีมกันแดดปริมาณ 1 แก้วชอต หรือ 30 ออนซ์นั่นเอง ควรทาครีมกันแดดที่ตัวหลังจากลงโลชั่นบำรุงผิวและไม่ควรทาโลชั่นอื่น ๆ ทับลงไป 

3. เมื่อลงเล่นน้ำต้องทากันแดดสำหรับกันน้ำโดยเฉพาะ

          เวลาลงเล่นน้ำเราก็สามารถทาครีมกันแดดได้ ซึ่งบนฉลากต้องระบุไว้ว่า "Water Resistant" เท่านั้น นอกจากจะกันน้ำได้ ยังกันเหงื่อขณะเล่นกีฬาได้อีกด้วย ถึงจะขึ้นชื่อว่า กันน้ำ กันเหงื่อ ก็ใช่ว่าจะลงน้ำหรือเล่นกีฬาได้ตลอดโดยไม่ต้องทาครีมกันแดดเพิ่ม เพราะจริง ๆ แล้วหลังจากโดนน้ำผ่านไป 40 นาที ประสิทธิภาพของครีมกันแดดจะลดลงแต่ก็ยังพอกันแดดได้บ้าง
    
          และเมื่อเล่นน้ำหรือมีเหงื่อออกต่อเนื่องไปจนถึง 80 นาที ครีมกันแดดจะเสื่อมประสิทธิภาพจนไม่สามารถกันแดดได้อีกเลย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดซ้ำอีกครั้งเมื่อต้องเล่นน้ำเกิน 80 นาที แต่เพื่อความมั่นใจว่าผิวจะไม่ถูกทำร้ายด้วยแดดขณะเล่นน้ำ การทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำซ้ำทุก ๆ 40 นาทีจะเป็นการป้องกันได้ดีที่สุด

4. ควรทาครีมกันแดดทุก ๆ 2 ชั่วโมง

          เราควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง ต่อให้ครีมกันแดดนั้นมี SPF หรือค่า PA ที่สูงมากเพียงใด แต่เมื่อเผชิญมลภาวะทั้งฝุ่น ควัน น้ำหรือเหงื่อ ประสิทธิภาพของครีมกันแดดนั้นจะลดลงในทันที ทางที่ดีควรพกครีมกันแดดขนาดเล็กติดตัวไว้ แล้วนำออกมาทาซ้ำอีกรอบช่วงบ่ายจะดีที่สุด

5. ไม่เอาครีมกันแดดทาผิวกายมาใช้กับผิวหน้า

           ผิวหน้าคนเรามีความบอบบางกว่าที่คิด การใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าควรเป็นสูตรที่อ่อนโยน เหมาะกับผิวหน้าเท่านั้น ซึ่งส่วนมากแล้วครีมกันแดดสำหรับผิวกายจะมีส่วนผสมของน้ำหอมและน้ำมันที่มากกว่าปกติ หากนำมาใช้กับผิวหน้าอาจเกิดอาการแพ้และเป็นสิวได้ง่าย 

          นอกจากนี้ ครีมกันแดดสำหรับทาผิวหน้ากับทาผิวกายมีเฉดสีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เมื่อนำครีมกันแดดสำหรับทาตัวมาใช้กับผิวหน้าอาจมีผลทำให้รองพื้นเปลี่ยนเฉดสีไปได้ ทางที่ดีควรเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ และมีเฉดสีใกล้เคียงกับผิวจริงของเรามากที่สุดจะดีกว่า 

6. สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบุค่าการป้องกันรังสียูวี ช่วยกันแดดได้อีกทาง

          ปัจจุบันนี้แบรนด์เสื้อผ้าหลายแบรนด์เริ่มหันมาให้ความสนใจผลิตชุดที่ป้องกันรังสียูวีกันมากขึ้น หลักของการป้องกันแสงแดดด้วยเสื้อผ้าเกิดจากขั้นตอนในการทอผ้า ต้องทอให้มีความแน่น เหลือช่องว่างน้อยจนแสงแดดไม่สามารถทะลุผ่านเสื้อผ้าได้ ค่าการป้องกันรังสียูวีจะลดหลั่นกันไปตามลักษณะการทอ แต่ต้องจำไว้ว่า ยิ่งกันแดดได้มากเท่าไหร่ เสื้อผ้าที่สวมใส่ยิ่งไม่สามารถระบายอากาศได้มากเท่านั้น หรือใครไม่สะดวกหาเสื้อผ้าที่ป้องกันรังสียูวีได้ แค่สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และกางร่มทุกครั้งเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ก็ถือเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่น่าสนใจ

          เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ไม่ยากอย่างที่คิดใช่ไหม ? ทีนี้ก็มั่นใจได้แล้วว่าการทาครีมกันแดดครั้งต่อไปของคุณ จะสามารถป้องกันแสงแดดได้จริง ๆ ^^

 ครีมทาผิวแบบไม่เหนียว ใช้แล้วสบายผิว แถมยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ งานนี้ใครที่ไม่อยากผิวเสียเพราะปัญหาแดด ฝุ่น ควัน มาดูกันเลยว่าครีมทาผิวตัวไหนช่วยปกป้องผิวของเราได้บ้าง
  ช่วงนี้ไปไหนมาไหนก็ได้ยินแต่ค่าฝุ่น PM2.5 ทำเอาหลายคนรีบไปหาหน้ากาก N95 มาใส่ป้องกันสุขภาพกันยกใหญ่ แต่สาว ๆ รู้ไหมคะว่านอกจากเจ้าฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว PM2.5 นี้จะทำร้ายสุขภาพของเราแล้ว ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายสุขภาพผิวของเราอีกด้วย เพราะมันมีขนาดที่เล็กมากกก ซึ่งหากเทียบกับเส้นผมเราแล้ว มีขนาดเล็กเพียงแค่ 1 ใน 25 ของเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นผมเท่านั้น พูดเลยว่าเล็กขนาดนี้ไม่แคล้วเข้าไปในรูขุมขนของเราได้สบาย ๆ ทำให้เป็นตัวการสารพัดปัญหาผิวตามมานั่นเอง

          รู้อย่างนี้แล้วสาว ๆ จะนิ่งเฉยไม่ได้แล้วนะคะ รีบไปหาไอเทมที่จะช่วยปกป้องผิวอย่าง "ครีมทาผิว" ที่จะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน พร้อมทั้งรังสียูวีจากแสงแดดด้วยดีกว่า ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมมาไว้ให้สาว ๆ กันแล้ว โดยคัดเน้น ๆ เฉพาะ ครีมทาผิวแบบไม่เหนียว ทาแล้วสบายผิว งานนี้ต่อให้ฝุ่นเยอะแค่ไหนก็สวยมั่นได้ทุกสถานการณ์แน่นอน

1. Physiogel Daily Defence Protective Day Cream Rich SPF 15

          สาว ๆ คนไหนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย หากกำลังมองหาครีมทาผิวที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะดี ๆ กันอยู่ละก็แนะนำตัวนี้เลยค่ะ เป็นครีมทาผิวผสมสารป้องกันแสงแดดที่เนื้อบางเบา ทาแล้วซึมเร็ว ทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน และรังสียูวี นอกจากนี้หากใช้อย่างต่อเนื่องยังจะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วยนะคะ ราคาประมาณ 700-800 บาท

2. Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Refresh Bright SPF50+ PA+++

          ตัวนี้เป็นครีมทาผิวกันแดดที่เป็นมากกว่ากันแดดค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ยังช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และมลภาวะต่าง ๆ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ไม่แห้งเสีย ที่สำคัญทาแล้วจะรู้สึกผิวเย็นสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อนในบ้านเรามาก ๆ แถมยังกันน้ำกันเหงื่ออีกด้วยนะคะ ราคา 129-290 บาท

3. Vaseline Healthy White Urban Defense SPF30 PA+++ Serum

          ครีมทาผิวสูตรไวท์เทนนิ่งผสมสารกันแดด ตัวนี้นอกจากจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะแล้ว ยังจะช่วยทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสและดูสม่ำเสมอขึ้นอีกด้วย เนื้อครีมตัวนี้เป็นเนื้อเซรั่ม บางเบา ซึมเร็ว ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ ราคา 79-250 บาท

4. La Roche Posay Anthelios XL Lotion SPF 50+

          โลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนม ทาแล้วรู้สึกบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะผิว และไม่ทิ้งคราบขาว ใช้แล้วสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้สบาย ๆ หรือแม้แต่ต้องเผชิญกับสภาวะฝุ่น ควัน ตลอดทั้งวันก็เอาอยู่ ราคา 1,100 บาทค่ะ

5. EARTHs Anti-Pollution Body Sunscreen SPF50+ PA+++

          ครีมทาผิวกันแดด ตัวนี้เป็นสูตรที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวเลยค่ะ เนื้อครีมตัวนี้เป็นเซรั่ม ทาแล้วเกลี่ยง่ายไม่ติดขน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เป็นคราบ เวลาออกแดดจัด ๆ ก็ไม่รู้สึกแสบร้อนผิว หากใช้อย่างสม่ำเสมอผิวจะกระชับ อ่อนเยาว์ และสีผิวจะดูสม่ำเสมอขึ้นด้วยนะคะ ราคา 299 บาท

6. THREE Balancing Body UV Protector SPF50/PA++++

          ครีมกันแดดตัวนี้ทาแล้วจะทำหน้าที่เป็นเหมือนแผ่นฟิล์มบาง ๆ คอยเคลือบผิวไว้ สามารถป้องกันฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กและสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้ามาทำร้ายผิวของเราได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทั้งยังเหมาะกับอากาศร้อน ๆ ถือเป็นครีมกันแดดทาผิวที่ตอบโจทย์กับสภาพอากาศในบ้านเรามาก ๆ เลยล่ะค่ะ แต่ถ้าหากพูดถึงราคาก็อาจจะแรงไปนิด ประมาณ 2,200 บาทค่ะ

          ถึงแม้ฝุ่น ควัน แสงแดด และมลภาวะ จะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสีย แต่ต่อไปนี้สาว ๆ ไม่ต้องกังวลกันแล้วนะคะ แค่มีตัวช่วยดี ๆ เหล่านี้ติดโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ เท่านี้มลภาวะต่าง ๆ ก็ไม่สามารถทำร้ายผิวสวยของเราได้แล้ว ^^