วิธีการเลือกครีมทาผิว
ในการเลือกครีมทาผิวนั้น สิ่งสำคัญในขั้นตอนแรกสุดคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทผิวของตนเองค่ะ ดังนั้น ก่อนไปดูอันดับของครีมทาผิว ผู้เขียนขอพาทุกคนไปดูวิธีการเลือกครีมทาผิวที่เหมาะกับสภาพผิวแต่ละแบบกันก่อน ไปดูกันเลยค่ะว่าผิวของแต่ละคนนั้นเป็นแบบไหน?
เลือกจากส่วนผสมของน้ำ+น้ำมันที่สมดุล
ในครีมทาผิวนั้นมีส่วนผสมที่ช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวผสมอยู่ แต่ความชุ่มชื่นที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องมีส่วนผสมของ “น้ำมัน” และ “น้ำ” ในสภาวะสมดุลกันค่ะ
・น้ำมัน：น้ำมันมะกอก, โจโจ้บาออยล์ และอื่นๆที่ช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ผิว
・น้ำ：เซราไมด์, คอลลาเจน และอื่นๆที่มีคุณสมบัติคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
・น้ำ：เซราไมด์, คอลลาเจน และอื่นๆที่มีคุณสมบัติคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
ในการทำงานของน้ำและน้ำมันในครีมทาผิวนั้น ขั้นแรก น้ำจะให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวในระยะเวลาที่ยาวนาน จากนั้น น้ำมันจะช่วยป้องกันการระเหยของน้ำออกจากชั้นผิวหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและคงความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ดังนั้น ในการเลือกครีมทาผิว จึงไม่ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมเน้นไปทางน้ำหรือน้ำมัน แต่ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของทั้งสองอย่างในปริมาณที่สมดุลกันนั่นเองค่ะ
เลือกจากสภาพผิว
เนื่องจากสภาพผิวมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ครีมทาผิวจึงไม่สามารถให้ความชุ่มชื่นต่อทุกสภาพผิวได้อย่างเท่าเทียมกันเสมอไป การเลือกครีมทาผิวนั้น จึงควรเลือกครีมทาผิวที่เหมาะกับสภาพผิวเพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นแลดูสุขภาพดี
ผิวแห้ง：ควรเลือกส่วมผสมที่มีเซราไมด์
สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งนั้น แม้ผิวชั้นนอกจะมีความชุ่มชื่น แต่เนื่องจากน้ำไม่สามารถส่งผ่านไปยังชั้นผิวด้านในได้จึงทำให้ผิวแห้ง ดังนั้น ในการแก้ปัญหาผิวแห้ง นอกจากชั้นผิวด้านนอกแล้วจึงควรให้ความสำคัญกับชั้นผิวด้านในด้วยค่ะ
ผู้ที่มีผิวแห้งง่ายนั้น ควรเลือกครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ โดยเซราไมด์จะทำการแทรกซึมลึกเข้าสู่เซลล์ผิวชั้นใน ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวจากผิวชั้นในสู่ชั้นนอก มีคุณสมบัติในการคงความชุ่มชื่น และกักเก็บน้ำให้แก่ผิวได้อย่างยาวนาน
ผิวบอบบาง：ควรเลือกที่ ‘ไม่มี’ ส่วนผสมของสารกระตุ้นและสารเติมแต่ง
สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง ควรเลือกครีมทาผิวที่ไม่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นต่างๆที่รุนแรง หากมี “ส่วนผสมเพื่อรักษาคุณภาพ” หรือ “ส่วนผสมเพื่อความงาม” ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์แล้ว หมายความว่ามีการใช้วัตถุดิบและสารเติมแต่งในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จึงไม่แนะนำให้ใช้เนื่องจากมีสารกระตุ้นที่รุนแรงต่อผิวที่บอบบาง
ครีมทาผิวที่เหมาะสำหรับผิวบอบบางนั้น ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติอย่างเช่น ‘เชียบัตเตอร์’ หรือครีมทาผิวที่ไม่ใส่สีและไม่แต่งกลิ่น
ผิวมัน：ควรเลือกส่วมผสมที่มีวิตามิน C
สำหรับผู้ที่มีผิวมัน การใช้ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมันนั้นอาจทำให้ผิวมีความเหนอะได้ ดังนั้น ควรเลือกครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินC ที่ช่วยในการยับยั้งการหลั่งของไขมันส่วนเกินได้
นอกจากนี้ ยังขอแนะนำครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิคที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ ที่เป็นสาเหตุหลักในการหลั่งของไขมันส่วนเกินเนื่องจากผิวขาดน้ำ
เลือกจากเนื้อสัมผัสที่ชอบ
ครีมทาผิวนั้นมีเนื้อครีมมากมายหลายประเภท ซึ่งเนื้อครีมแต่ละประเภทนั้นก็ให้ผิวสัมผัสที่ต่างกันออกไป
เนื้อครีมประเภท “บอดี้บัตเตอร์” นั้น เป็นเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันในปริมาณมากจึงให้เนื้อสัมผัสติดทนแต่ค่อนข้างเหนอะบนผิว มีข้อดีคือ ช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างยาวนาน เนื้อครีมประเภท “โลชั่น” นั้น เป็นเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของน้ำในปริมาณมาก จึงให้สัมผัสลื่นไปกับผิว มีความติดทนน้อยกว่าแต่ก็ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยเช่นกัน เนื้อครีมประเภท “ออยล์” นั้น ทำให้ผิวบริเวณที่ทาครีมนั้นมีความมันเป็นพิเศษ แต่ข้อดีคือ มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื่นสูง
เนื้อครีมของครีมทาผิวนั้นแบ่งออกเป็นหลายประเภท ควรเลือกครีมทาผิวที่เหมาะกับตนเองและระดับความแห้งของผิวกันนะคะ
เลือกจากเนื้อครีมที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้ได้นาน
ในการใช้ครีมทาผิวนั้น เพียงลองใช้ครีมในปริมาณเล็กน้อย จะสามารถแบ่งประเภทเนื้อครีมเป็น “เนื้อครีมที่มีความยืดหยุ่นสูง” และ “เนื้อครีมที่มีความยืดหยุ่นต่ำ” ได้ หากต้องการใช้ครีมทาผิวในบริเวณข้อศอก ส้นเท้า เข่า หรือบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้นก็สามารถใช้เนื้อครีมที่มีความยืดหยุ่นต่ำได้ แต่หากต้องการใช้ครีมทาผิวในการทาผิวตามร่างกายแล้ว ควรเลือกครีมทาผิวที่มีความยืดหยุ่นสูง
โดยก่อนการเลือกซื้อนั้น สามารถลองเทสท์เนื้อครีมกับมือได้ตามร้านทั่วไป หรือศึกษาจากรีวิวของผู้ใช้จริงในกรณีช้อปปิ้งออนไลน์ก็ได้
เลือกจากกลิ่นหอม เพื่อความผ่อนคลาย
หากเป็นครีมทาผิวที่มีกลิ่นหอม นอกจากจะคงความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย หากใช้ครีมทาผิวที่มีกลิ่นหอมก่อนนอน จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้เร็วขึ้น หรือแม้แต่ใช้ทาผิวก่อนออกจากบ้านก็สามารถให้กลิ่นหอมแทนโคโลญจน์ได้ ซึ่งครีมทาผิวนั้นมีกลิ่นหอมให้เลือกมากมาย ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละวัน แต่ละโอกาสกันนะคะ
ข้อควรระวังในการเลือกใช้ครีมทาผิวที่มีกลิ่นหอมคือ เนื่องจากเป็นครีมที่มีจุดเด่นในการให้กลิ่นหอม อาจทำให้คุณสมบัติในการคงความชุ่มชื่นให้ผิวนั้นไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น ผู้ที่เลือกใช้ครีมทาผิวประเภทนี้จึงควรคำนึงถึงคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื่นที่เบาบาง แต่ให้กลิ่นหอมเพื่อความผ่อนคลายกันด้วยนะคะ
10 อันดับ ครีมทาผิว สำหรับผิวแห้ง ยอดฮิตขายดี ที่สามารถซื้อออนไลน์ได้
มาถึง 10 อันดับของ “ครีมทาผิว” ยอดนิยมทึ่ผู้เขียนนำมาฝากกันในวันนี้นะคะ หวังว่าครีมทาผิวที่ได้นำมาฝากกันต่อไปนี้จะช่วยให้หลายๆคนที่กำลังมองหาครีมทาผิวนั้น สามารถเลือกครีมทาผิวที่เหมาะกับตนเองได้กันนะคะ ♥
10. AVEENO Active Naturals Daily Moisturizing Lotion
ราคา 399 บาท
ฟื้นฟูผิวแห้งเสียให้กลับมาสุขภาพดีได้ภายใน 1 วัน
เริ่มต้นอันดับที่ 10 นี้ด้วยโลชั่นเข้าชิงจากประเทศสหรัฐอเมริกา กับแบรนด์ “Aveeno” โลชั่นยอดขายอันดับ 1 ที่เป็นผู้ชนะในรางวัล Readers’ Choice Awards ปี 2016-2017 โดยโลชั่นบำรุงผิวจาก Aveeno ตัวนี้ได้รับการรับรองทางการแพทย์ว่าเป็นโลชั่นบำรุงผิวที่สามารถฟื้นฟูผิวแห้งเสียให้กลับมาสุขภาพดีได้ภายใน 1 วัน และบำรุงผิวให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อใช้เป็นประจำติดต่อกัน 2 สัปดาห์
ด้วยสูตร ACTIVE NATURALS® ที่มีส่วนผสมของข้าวโอ๊ตคอลลอยด์สกัด และครีมบำรุงผิวเข้มข้น ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันและปกป้องผิวแห้งเสียได้ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง เนื้อโลชั่นให้สัมผัสเนียนนุ่ม เมื่อใช้แล้วไม่ทำให้รู้สึกเหนอะ ช่วยมอบความชุ่มชื่นให้แก่ผิว บำรุงผิวให้ดูสุขภาพดี อีกทั้งยังเป็นโลชั่นปราศจากน้ำหอม และไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดภาวะรูขุมขนอุดตัน จึงเหมาะเป็นโลชั่นบำรุงผิวที่สามารถใช่ได้ในทุกๆวัน
9. Eucerin PH5 Lotion F
ราคา 420 บาท
โลชั่นสำหรับผิวแห้งมาก ผิวบอบบาง และผิวแพ้ง่าย
อันดับที่ 9 ในลิสต์ของเราวันนี้เป็นโลขั่นบำรุงผิวจาก “Eucerin” กับโลชั่น PH5 ที่ถูกพัฒนามาเพื่อผิวแห้งเสียโดยเฉพาะ โดยสาเหตุหลักๆของผิวแห้งนั้นเกิดจากการสูญเสียน้ำในผิว จึงทำให้ผิวแห้ง ดังนั้น ด้วยสูตร pH Balance System ที่ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิว แต่ยังช่วยปรับสมดุลของสภาพเซลล์ผิว เพื่อช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวนั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์มากขึ้น ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว ผิวจึงไม่ไวต่อการถูกกระตุ้นโดยปัจจัยต่างๆ
โลชั่น PH5 จาก Eucerin ตัวนี้ได้รับการพิสูจน์จากทางการแพทย์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวแห้งเสีย และไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง จึงเป็นโลชั่นที่เหมาะสำหรับการใช้บำรุงผิวที่แห้งและไวต่อการกระตุ้นได้ในทุกๆวัน
8. Vaseline Intensive Care Aloe Soothe
ราคา 338 บาท
ฟื้นฟูผิวแห้งและผิวแห้งเสียที่เกิดจากแสงแดด ลดการระคายเคือง ด้วยสูตรว่านหางจระเข้
มาถึงอันดับที่ 8 กับโลชั่นบำรุงผิวจาก “วาสลีน” ที่มาพร้อมโลชั่นสูตรบำรุงผิวเข้มข้น ‘Aloe Soothe’ ที่มาพร้อมกับพลังการฟื้นฟูผิวเสียด้วย Micro-Dropets จากวาสลีนเจลลี่ ที่มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้อย่างล้ำลึก ผสมผสานเข้ากันกับว่านหางจระเข้สกัด ที่มีคุณสมบัติในการมอบความสดชื่นให้แก่ผิว ช่วยให้เซลล์ผิวสามารถดูดซึมเนื้อครีมได้เร็วยิ่งขึ้น
โลชั่นสูตรว่านหางจระเข้จากวาสลีนตัวนี้ ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า สามารถมอบความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยให้เซลล์ผิวชุ่มชื่นขึ้นทันทีหลังจากการใช้ครั้งแรก เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์จะพบว่าผิวที่แห้งเสียนั้นกลับมาแลดูสุขภาพดี และเห็นผลลัพธ์ของผิวที่แตกต่างได้อย่างชัดเจนในสัปดาห์ที่ 4 เนื้อครีมสามารถซึมซาบเข้าสู่เซลล์ผิวได้เร็ว จึงไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเมื่อใช้
7. NIVEA Smooth Daily Moisture Body Lotion
ราคา 169 บาท
โลชั่นบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ในทุกๆวัน
อันดับที่ 7 นี้ตกเป็นของ “นีเวีย” กับโลชั่นบำรุงผิวที่มอบความชุ่มชื่นให้ผิวในทุกๆวัน ถูกพัฒนามาเพื่อผู้ใช้ที่มีผิวแห้งโดยเฉพาะ ด้วยสูตรที่มีส่วนผสมหลักของ ‘เชียบัตเตอร์’ เข้มข้น มีคุณสมบัติช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวได้ยาวนานมากกว่า 24 ชั่วโมง เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวได้อย่างชัดเจน
จุดเด่นของโลชั่นสูตรเชียบัตเตอร์จากนีเวียนี้คือ สามารถซึมซาบเข้าสู่เซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น อีกทั้งยังผ่านการพิสูจน์และได้รับการยืนยันจากทางการแพทย์ จึงมั่นใจได้ว่าเป็นโลชั่นที่อ่อนโยนและปลอดภัยแม้กระทั่งผิวบอบบาง สามารถใช้บำรุงผิวได้ในทุกๆวัน
6. NIVEA Creame
ราคา 59 บาท
ครีมนีเวียตลับสุดคลาสสิค ขายดีตลอดกาลจากนีเวีย
เข้าสู่อันดับที่ 6 กันกับครีมนีเวียตลับสุดคลาสสิคจาก “นีเวีย” ที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใดก็ยังคงเป็นครีมตลับที่ขายดีตลอดกาล ที่มาพร้อมคุณสมบัติในการบำรุงอย่างล้ำลึก และช่วยปกป้องทุกๆสภาพผิวของผู้ใช้จากการสูญเสียน้ำในเซลล์ผิวด้วยส่วนผสมเข้มข้นจากนีเวีย ด้วยสูตรที่เป็นเอกลักษณ์และปราศจากสารกันบูดซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนีเวีย จึงทำให้นีเวียครีมตัวนี้ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีตลอดกาลตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในปี 1911
จุดเด่นของนีเวียครีมตัวนี้คือ เป็นเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของ Lanolin, Glycerin และ Eucerit ที่ช่วยมอบความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ช่วยปรับสภาพผิวแห้งเสียให้กลับมาสุขภาพดี เนื้อครีมมีความอ่อนโยนต่อผิว และมีประสิทธิภาพสูงในการบำรุงผิว จึงเหมาะสำหรับใช้ทาได้ทั่วทั้งร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใช้ทาบริเวณใบหน้า, ลำตัว, มือและเท้าเพื่อบำรุงผิวให้มีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น
5. Beauty System BEAU Tii Be Rice Berry Milk Body Lotion
ราคา 159 บาท
โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำนมข้าวไรซ์เบอรี่ ให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
อันดับที่ 5 นี้เป็นโลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำนมข้าวไรซ์เบอรี่ จาก “Beauty System” ที่มีส่วนผสมหลักของสารสกัดเข้มข้นจากน้ำนมข้าวไรซ์เบอรี่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี อุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิว ช่วยคงความชุ่มชื่นให้แก่ผิว และปรับสภาพผิวให้แลดูกระจ่างสว่างใส
เมื่อใช้โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำนมข้าวไรซ์เบอรี่เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะพบว่าผิวแลดูกระจ่างใสและมีความชุ่มชื่นขึ้น เนื้อครีมมีกลิ่นหอมสดชื่นจากน้ำนมข้าว ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขณะใช้ทา
4. LA ROCHE-POSAY Lipikar Fluide
ราคา 836 บาท
โลชั่นสำหรับผิวแห้ง ผิวบอบบาง และระคายเคืองง่าย
ต่อเนื่องกันมาด้วยอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นโลชั่น ‘ลิปิการ์’ เนื้อฟลูอิด สำหรับผู้ใช้ที่สภาพผิวบอบบางและระคายเคืองง่าย จาก “ลาโรช โพเซย์” ที่มาพร้อมส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยปลอบประโลมผิวทันทีที่ใช้ทา และช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้ดียิ่งขึ้น
โลชั่นลิปิการ์นี้มีเนื้อครีมที่ให้สัมผัสเบาสบาย เนื้อครีมเกลี่ยง่าย เมื่อใช้แล้วซึมซาบเข้าสู้เซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่รู้สึกเหนอะผิว อีกทั้งเป็นสูตรปราศจากน้ำหอมและพาราเบน จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีผิวแห้ง ผิวบอบบางและระคายเคืองง่าย สามารถใช้ทาบำรุงผิวได้เป็นประจำ
3. JERGENS Hydrating Coconut Moisturises & Softens
ราคา 295 บาท
ที่สุดของโลชั่นบำรุงผิวสูตรมะพร้าว เผยผิวชุ่มชื่นสุขภาพดี
อันดับที่ 3 นี้เป็นของโลชั่นบำรุงผิวของ “เจอร์เกนส์” แบรนด์จากประเทศออสเตรเลีย กับโลชั่นสูตรใหม่ที่มีส่วนผสมหลักของน้ำมันมะพร้าวสกัด ถูกพัฒนามาสำหรับผู้ใช้ที่มีสภาพผิวแห้ง มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื่นให้แก่ผิว บำรุงให้ผิวมีความเนียนนุ่มยิ่งขึ้น
ด้วยเนื้อสัมผัสแบบมอยส์เจอไรเซอร์ที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยี Hydralucence และส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว, น้ำมะพร้าวสกัดเข้มข้น ช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นยาวนาน เผยผิวสวย เนียนนุ่ม แลดูสุขภาพดีอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีสภาพผิวธรรมดา-ผิวแห้ง
2. Eucerin AtopiControl Body Care Lotion
ราคา 899 บาท
โลชั่นบำรุงผิวสูตร Oil in water อ่อนโยนจนใช้ได้แม้ในผิวเด็กทารก
อันดับที่ 2 นี้เป็นของโลชั่นบำรุงผิวจาก “Eucerin” สำหรับผู้ใช้ที่มีผิวแห้งและผิวที่ระคายเคืองได้ง่าย ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากกรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งเป็นสารสกัดที่พบได้ในน้ำมัน Evening Primrose และน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัด ที่มีคุณสมบัติในการเติมเต็มชั้นไขมันที่จำเป็นในเซลล์ผิว มอบความชุ่มชื่นให้ชั้นผิวพร้อมช่วยปกป้องผิว
นอกจากนี้ยังมีสารสกัด Licochalcone จากราก Licorices ช่วยลดปัญหาผิวแห้งกร้าน และการระคายเคืองที่มีสาเหตุจากผิวแห้ง โลชั่นบำรุงผิวจาก Eucerin ตัวนี้เป็นสูตร Oil in water ที่สามารถซึมซาบเข้าสู้เซลล์ผิวได้ดี เมื่อใช้แล้วไม่ทำให้รู้สึกเหนอะ อีกทั้งไม่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์, พาราเบน, สี และน้ำหอมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงมีความอ่อนโยนจนสามารถใช้ได้แม้ในผิวเด็กทารก
1. JERGENS Ultra Healing Nourishes & Heals
ราคา 295 บาท
โลชั่นบำรุงผิวสูตรที่ดีที่สุด สำหรับสภาพผิวแห้ง-แห้งมาก
มาถึงอันดับที่ 1 กับโลชั่นบำรุงผิวเพื่อผิวนุ่มชุ่มชื่น แลดูสุขภาพดีจากประเทศออสเตรเลีย กับแบรนด์ “เจอร์เกนส์”สูตรอัลตร้าฮีลลิ่ง โลชั่นบำรุงผิวสำหรับผู้ใช้ที่มีสภาพผิวแห้ง-แห้งมาก ด้วยส่วนผสมที่บำรุงไปด้วยสารสกัดจากวิตามินซี, วิตามินอี และวิตามินบี 5 ที่มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างล้ำลึกถึงระดับชั้นเซลล์ผิว ช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิวแห้งเสียให้มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นเป็นระดับ
เนื้อครีมให้สัมผัสเนียนนุ่ม สามารถซึมซาบเข้าสู้เซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี Hydralucenceช่วยบำรุงผิวและปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโลชั่นบำรุงผิวสูตรที่ดีที่สุดของเจอร์เกนส์นี้ พบว่าเมื่อใช้โลชั่นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 1 สัปดาห์ 100% ของผู้ใช้มีความเห็นว่าสภาพผิวดูดีขึ้น และ 89% ของผู้ใช้มีผิวที่คงความชุ่มชื่นอยู่ได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
เทคนิคการใช้ครีมทาผิว
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าควรใช้ครีมทาผิวช่วงไหนดี? ในครั้งนี้ผู้เขียนได้นำ ‘วิธีการใช้’ มาฝากกันค่ะ หากใช้ครีมทาผิวได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องแล้ว จะช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื่นอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอนค่ะ
ช่วงเวลาในการใช้ครีมทาผิว
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการใช้ครีมทาผิวคือ ช่วงที่ผิวอยู่ในสภาพอ่อนนุ่มหลังจากอาบน้ำเสร็จนั่นเองค่ะ เนื่องจากครีมทาผิวนั้นจะซึมเข้าสู่ยังชั้นผิวได้ง่าย และยังช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งหลังจากอาบน้ำได้อีกด้วย เรียกว่าใช้เพียงหนึ่งได้ถึงสองประโยชน์เลยค่ะ
นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับผิวบริเวณข้อต่อ เช่น ข้อศอก หรือ หัวเข่าที่ผิวแห้งง่าย หากไม่ละเลยกับผิวบริเวณนี้และหมั่นทาครีมอย่างสม่ำเสมอแล้ว การมีผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่นไร้รอยย่นต่างๆทั่วเรือนร่างก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
ครีมทาผิวสำหรับใบหน้า?
เคยมั้ย? สำหรับผู้ที่กังวลกับปัญหาผิวแห้งแล้วอยากลองใช้ครีมทาผิวที่มีความชุ่มชื่นสูงใช้กับใบหน้าด้วย??
ในปัจจุบัน ได้มีครีมทาผิวที่ให้ความชุ่มชื่นสูงซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งร่างกายและใบหน้า แต่เนื่องจากผิวหน้านั้นเป็นผิวที่มีความบอบบางมากกว่าผิวกาย การใช้ครีมทาผิวทั้งร่างกายนั้นอาจเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวได้ หากต้องการใช้ครีมทาผิวในการใช้กับใบหน้าด้วยแล้วนั้น ควรศึกษาให้มั่นใจก่อนว่าเป็นครีมทาผิวที่สามารถใช้ได้ทุกส่วนบนร่างกาย
ไวท์เทนนิ่งครีม ครีมทาผิวสำหรับฤดูร้อน
ในฤดูร้อนนั้น ปัญหาผิวแห้งมักมีสาเหตุมาจากแสง UV ยิ่งหากวันไหนต้องโดนแดดเป็นเวลานาน ก็อาจพ่วงปัญหาผิวคล้ำเสียตามมาอีกด้วย การใช้ครีมทาผิวที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวกระจ่างใสนั้น นอกจากจะคงความชุ่มชื่นให้ผิวแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างสว่างใสอีกด้วย
โดยส่วนผสมที่คงความชุ่มชื่นแก่ผิวนั้นจะช่วยฟื้นฟูผิวแห้งเสียที่เกิดจากการโดนแดด และส่วนผสมเพื่อผิวขาวนั้นจะช่วยลดลอยดำคล้ำบนผิวอีกด้วย หากต้องการครีมทาผิวสำหรับฤดูร้อน ควรเลือกใช้ครีมทาผิวเพื่อผิวขาวกระจ่างใสค่ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น